ตัวอย่างสีไม้เทียม wpc ได้มาตรฐาน ISO
ตัวอย่างสีไม้เทียม wpc มีหลายสีให้ลูกค้าเลือก สีอยู่ในเนื้อไม้ ปลวกไม่กิน ขายส่งราคาถูก
ไม้เทียมวัสดุทดแทนสิ่งที่เกิดจากธรรมชาติ ปัจจุบันมีความนิยมเพิ่มสูงขึ้น วัสดุทดเเทนไม้ก็มีไม้เทียมรวมอยู่ด้วย และมีร้านค้าจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไม้เทียมwpcก็มีมากขึ้นกว่าเดิมเมื่อเปรียบเทียบกับในอดีต และเป็นทางเลือกหนึ่งให้กับเรา ปัจจุบันไม้เทียม มีมาตรฐานการผลิตมากขึ้นมีการรับรองจากสถาบันต่างๆ สามารถสร้างบ้านเป็นหลังหรือใช้สำหรับงานตกแต่งอาคารหรือบ้านหรือสวนให้ความสวยงามและความคงทนมากกว่าไม้จริงเสียอีก มีหลายขนาดหลายสีหลายลายให้เราเลือกใช้กัน ใช้งานได้หลายปีและลดค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้อีกด้วย ต้องเลือกซื้อและเลือกใช้ของดีมีคุณภาพดี เพราะแต่ละโรงงานคุณภาพก็ไม่เหมือนกัน ซึ่งถือว่าคุ้มค่ากับการลงทุนได้มากเลยทีเดียวการที่เราจะเลือกซื้อ ไม้เทียม ที่มีคุณภาพ ต้องดูจากมาตรฐานอุตสาหกรรมการผลิต ที่มีการรับรองจากต่างประเทศ เราสามารถหาซื้อไม้เทียมได้ไม่ยาก ซึ่งมีอยู่ในท้องตลาดในประเทศทั้งที่ผลิตในประเทสและนำเข้ามาจากต่างประเทศ การเลือกซื้อไม้เทียมควรจะปรึกษา ช่างที่ชำนาญด้านไม้เทียมโดยตรงเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดและเราจะรู้ได้อย่างไรว่าที่ไหนที่เราเลือกซื้อจะเป็นของที่ได้คุณภาพหรือได้มาตรฐานอุตสาหกรรม ขั้นตอนการติดตั้งก็สำคัญมีผลต่อความแข็งเเรงของไม้เทียมไม้เทียม มีหลายประเภทหลายจำพวก คือ ผลิตจากโพลิเมอร์ต่าง ๆ อาทิ PP, PE และ PVC เป็นต้น หรือ ผลิตจากปูนซีเมนต์ผสมกับเส้นใยที่มีจำหน่ายในท้องตลาดมีการใช้วัสดุที่ผลิตอย่างหลากหลาย การที่เราจะเลือกซื้อหรือว่าเลือกใช้ไม้เทียมทุกๆแบบ
ควรจะต้องดูที่มีการผลิตที่มีมาตรฐานเป็นหลัก เพื่อที่สินค้าไม้เทียมออกจากโรงงานมามีคุณภาพ และมีปัญหาน้อยที่สุด และใช้งานง่ายคงทนต่อสภาวะแวดล้อม ไม้เทียมที่ดีต้องไม่บิดตัวเมื่ออยู่ในอากาศที่ร้อน และโดนฝนหรือเปียกชื้น จะทำให้เราได้ไม้เทียม ที่มีคุณภาพตามที่เราต้องการ
วิธีการติดตั้งไม้เทียม
หากจะกล่าวถึงวัสดุที่นำมาใช้ทดแทนไม้แล้วละก็ วัสดุที่จะถูกกล่าวถึงมากเป็นอันดับต้น ๆ ก็เห็นจะเป็นไม้เทียมนี่แหละ
ไม้เทียมที่มีการผลิตออกมาวางจำหน่ายในปัจจุบัน
มีอยู่หลายยี่ห้อด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเฌอร่า ตราช้าง ฯลฯ
อีกทั้งยังมีการผลิตออกมาให้สามารถใช้งานได้ในงานหลาย ๆ รูปแบบ
ทั้งการใช้เป็นไม้พื้น การใช้เป็นไม้ฝา ไปจนถึงการใช้งานเป็นไม้เพดาน
ซึ่งการติดตั้งไม้เทียมในงานแต่ละแบบนั้นมีความแตกต่างกันบ้าง
มีรายละเอียดในบางขั้นตอน เช่น การเตรียมพื้นที่ที่ไม่เหมือนกัน แต่โดยรวม ๆ
ก็มีลักษณะคล้ายกัน โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. เตรียมพื้นที่ที่จะทำการติดตั้งไม้เทียม
โดยหากเป็นการติดตั้งไม้พื้นต้องทำพื้นผิวที่จะติดตั้งให้เรียบเสมอกันเสียก่อนเพื่อป้องกันปัญหาขณะติดตั้ง
ส่วนถ้าเป็นการติดตั้งไม้ฝาต้องกำหนดจุดเสียก่อนว่าจะเอาส่วนใดของโครงสร้างเป็นที่ยึดไม้ฝาเพื่อป้องกันการพังหรือยุบ
ทั้งขณะติดตั้งและหลังจากติดตั้งไปแล้ว
2. ติดตั้งโครงสำหรับเป็นที่ยึดเกาะของไม้เทียมเข้ากับพื้นผิวที่จะติดตั้งไม้เทียม
โดยโครงนี้อาจใช้เป็นโครงไม้ WPC หรือโครงอลูมิเนียมก็ได้ สำหรับไม้ผนัง
เราอาจจะขึ้นโครงด้วยไม้แบบทั่วไป
จากนั้นก็ติดตั้งไม้เทียมเข้ากับโครงนั้นไปเลยก็ได้
3. ทำการติดตั้งไม้เทียมเข้ากับโครงที่เตรียมไว้
หากเป็นไม้พื้นต้องมีการติดตั้งคลิป PVC
เข้าที่ระหว่างไม้เพื่อให้ไม้แต่ละแผ่นมีช่องว่างถึงกัน
แล้วค่อยใช้สกรูยึดไม้เข้ากับโครง
แต่ถ้าเป็นไม้ผนังสามารถยึดแผ่นไม้ด้วยสกรูเข้ากับโครงที่เตรียมไว้ได้เลย
โดยต้องระวังอย่าให้มีช่องว่างระหว่างไม้
4. เมื่อติดตั้งไม้เทียมจนครบตามจำนวนที่กำหนดไว้แล้ว ให้ติดตั้งอุปกรณ์ตัวจบเพื่อความสวยงามของพื้นไม้เทียม หรือข้างฝาไม้เทียม
5. ทำการลงสีพื้นไม้เทียมหรือไม้เทียมข้างฝาตามต้องการเป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการติดตั้ง
ทั้งนี้
ในการติดตั้งไม้เทียมเข้าตามจุดต่าง ๆ
ผู้ติดตั้งจะต้องเลือกใช้อุปกรณ์ให้ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์การเจาะ
อุปกรณ์การตัดและวัสดุที่ใช้ยึดไม้เทียม
เพื่อให้การติดตั้งออกมามีประสิทธิภาพมากที่สุด
ไม้เทียมกับความทนทานเมื่อต้องพบกับความชื้นในอากาศ
ไม้เทียม
ส่วนใหญ่แล้วจะมีส่วนผสมจากวัสดุต่าง ๆ
และมีส่วนผสมจากสารเคมีที่ทำให้ตัวไม้ค่อนข้างเหมือนไม้จริงและการใช้งานที่ไม่ต่างจากไม้จริงเลย
มีเพียงบางประเภทเท่านั้นที่จะมีส่วนผสมของเนื้อไม้ลงไปเพื่อความเหมือนไม้จริงให้มากยิ่งขึ้น
แต่โดยส่วนใหญ่แล้วหากมีส่วนผสมของเนื้อไม้จริงเข้าไปในตัวไม้จะทำให้ความทนทานต่อสภาพอากาศน้อยลงโดยเฉพาะอากาศที่เป็นน้ำในช่วงฤดูฝน
เพราะด้วยความที่มีไม้จริงเป็นส่วนผสมอยู่ภายในจึงมีโอกาสที่น้ำจะเข้าไปภายในและทำให้เกิดอาการบวมน้ำจนก่อให้เกิดความเสียหายให้แก่ตัวไม้ได้ง่าย
ๆ
เมื่อมีการสะสมของความชื้นและน้ำเป็นระยะเวลาพอสมควร ไม้เทียมที่มีส่วนผสมของเนื้อไม้เป็นส่วนใหญ่จึงจะเสียหายไปในที่สุด
ไม้ที่มีส่วนผสมของเนื้อไม้เป็นส่วนใหญ่จึงเหมาะสำหรับงานภายในหรืองานเฟอร์นิเจอร์เท่านั้น
แต่หากเป็นไม้ที่มีส่วนผสมของเนื้อไม้เพียงเล็กน้อยหรือไม่มีส่วนผสมของเนื้อไม้เลย
ก็จะมีความแข็งแรงทนทานอายุการใช้งานจะยาวนานมากยิ่งขึ้น
สามารถใช้งานได้ทั้งภายนอกและภายในได้ทั้งหมด
แต่ละงานก็จะเหมาะกับไม้แต่ละประเภทไปเพราะในความหนาหรือความแข็งแรงจะต่างกันออกไปตามส่วนผสมของไม้เป็นหลัก
ดังนั้นหากต้องการไม้เทียมที่ทนทานต่อทุกสภาพอากาศโดยเฉพาะความชื้นและการบวมน้ำ
ควรเลือกไม้ที่มีส่วนผสมของเนื้อไม้ให้น้อยที่สุดหรือไม่มีส่วนผสมของเนื้อไม้เลยจะเป็นการดีต่องานที่ต้องการมากกว่า
รายละเอียดส่วนผสมของไม้แต่ละประเภทจะมีให้เข้าดูรายละเอียดตามเว็บต่าง ๆ
ผู้ใช้งานสามารถเข้าไปทำการศึกษาเพื่อที่จะเลือกใช้งานไม้ได้อย่างถูกประเภทมากที่สุด
เพื่อลดปัญหาการซ่อมแซมและการเสียเงินเพื่อเปลี่ยนวัสดุเหล่านี้
โดยปกติแล้วการเลือกใช้งานไม้เทียมwpcจะสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในการเลือกซื้อและการติดตั้งได้
แต่หากเลือกไม้ผิดประเภทมาใช้งานก็อาจจะมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มเติมขึ้นมา
ไม่ว่าจะค่าซ่อมแซม ค่าเปลี่ยนใหม่ให้เหมาะสม ค่าจ้างช่างติดตั้ง และอื่น ๆ
อีกมากมาย ทำให้งบประมาณบานปลายได้แบบง่าย ๆ
หากไม่อยากเสียเงินเพิ่มเติมไม่ว่าจะกรณีใดทั้งสิ้น
ควรให้ความสำคัญกับการเลือกซื้อให้ถูกประเภทตั้งแต่แรก
วิธีการติดตั้งไม้เทียม
หากจะกล่าวถึงวัสดุที่นำมาใช้ทดแทนไม้แล้วละก็ วัสดุที่จะถูกกล่าวถึงมากเป็นอันดับต้น ๆ ก็เห็นจะเป็นไม้เทียมนี่แหละ
ไม้เทียมที่มีการผลิตออกมาวางจำหน่ายในปัจจุบัน
มีอยู่หลายยี่ห้อด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเฌอร่า ตราช้าง ฯลฯ
อีกทั้งยังมีการผลิตออกมาให้สามารถใช้งานได้ในงานหลาย ๆ รูปแบบ
ทั้งการใช้เป็นไม้พื้น การใช้เป็นไม้ฝา ไปจนถึงการใช้งานเป็นไม้เพดาน
ซึ่งการติดตั้งไม้เทียมในงานแต่ละแบบนั้นมีความแตกต่างกันบ้าง
มีรายละเอียดในบางขั้นตอน เช่น การเตรียมพื้นที่ที่ไม่เหมือนกัน แต่โดยรวม ๆ
ก็มีลักษณะคล้ายกัน โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. เตรียมพื้นที่ที่จะทำการติดตั้งไม้เทียม
โดยหากเป็นการติดตั้งไม้พื้นต้องทำพื้นผิวที่จะติดตั้งให้เรียบเสมอกันเสียก่อนเพื่อป้องกันปัญหาขณะติดตั้ง
ส่วนถ้าเป็นการติดตั้งไม้ฝาต้องกำหนดจุดเสียก่อนว่าจะเอาส่วนใดของโครงสร้างเป็นที่ยึดไม้ฝาเพื่อป้องกันการพังหรือยุบ
ทั้งขณะติดตั้งและหลังจากติดตั้งไปแล้ว
2. ติดตั้งโครงสำหรับเป็นที่ยึดเกาะของไม้เทียมเข้ากับพื้นผิวที่จะติดตั้งไม้เทียม โดยโครงนี้อาจใช้เป็นโครงไม้เทียมWPC หรือโครงอลูมิเนียมก็ได้ สำหรับไม้ผนัง เราอาจจะขึ้นโครงด้วยไม้แบบทั่วไป จากนั้นก็ติดตั้งไม้เทียมเข้ากับโครงนั้นไปเลยก็ได้
3. ทำการติดตั้งไม้เทียมเข้ากับโครงที่เตรียมไว้
หากเป็นไม้พื้นต้องมีการติดตั้งคลิป PVC
เข้าที่ระหว่างไม้เพื่อให้ไม้แต่ละแผ่นมีช่องว่างถึงกัน
แล้วค่อยใช้สกรูยึดไม้เข้ากับโครง
แต่ถ้าเป็นไม้ผนังสามารถยึดแผ่นไม้ด้วยสกรูเข้ากับโครงที่เตรียมไว้ได้เลย
โดยต้องระวังอย่าให้มีช่องว่างระหว่างไม้
4. เมื่อติดตั้งไม้เทียมจนครบตามจำนวนที่กำหนดไว้แล้ว ให้ติดตั้งอุปกรณ์ตัวจบเพื่อความสวยงามของพื้นไม้เทียม หรือข้างฝาไม้เทียม
5. ทำการลงสีพื้นไม้เทียมหรือไม้เทียมข้างฝาตามต้องการเป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการติดตั้ง
ทั้งนี้
ในการติดตั้งไม้เทียมเข้าตามจุดต่าง ๆ
ผู้ติดตั้งจะต้องเลือกใช้อุปกรณ์ให้ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์การเจาะ
อุปกรณ์การตัดและวัสดุที่ใช้ยึดไม้เทียม
เพื่อให้การติดตั้งออกมามีประสิทธิภาพมากที่สุด
ขั้นตอนการติดตั้งไม้เทียม
การติดตั้งไม้เทียมนั้นมีหลายวิธีมีทั้งแบบที่ปูกับพื้นปูนเลยกับแบบที่ปูโดยที่มีโครงที่ด้านล่างก่อนหรือที่เรียกว่าตง
การเลือกปูไม้เทียมว่าจะเป็นแบบไหนนั้นขึ้นอยู่กับความเรียบของพื้นที่เป็นหลัก
หากเป็นพื้นปูนที่มีความเรียบอยู่แล้ว ก็สามารถปูไม้เทียมได้ทันที
แต่หากเป็นพื้นที่ไม่เรียบก็จะต้องทำโครงด้านล่างก่อนปูด้วยไม้เทียม
• การปูไม้เทียมกับพื้นปูน
ถ้าเป็นพื้นปูนที่เรียบอยู่แล้ว สามารถปูไม้เทียมได้เลย
โดยให้ตัดไม้เทียมให้ได้ขนาดความยาวตามที่ต้องการ
โดยใช้ลูกหมูเลือกใบตัดแบบตัดปูน
นำแผ่นไม้เทียมที่ตัดเรียบร้อยไปวางบนเรียงบนพื้นที่
อย่าลืมใช้พุกเพื่อยึดน๊อตด้วย
เมื่อเรียงแผ่นไม้เทียมเสร็จก็เป็นขั้นตอนของการยึดน๊อตด้วยสว่านเพื่อให้ไม้เทียมยึดติดกับพื้นปูน
หลังจากนั้นก็ใช้ยาแนวผสมและอุดตามรูของน๊อตให้เรียบเสมอกัน
จากนั้นก็ลงสีตามที่ต้องการก็เป็นอันเรียบร้อย
• การปูไม้เทียมกับพื้นดิน
พื้นดินส่วนใหญ่จะมีลักษณะที่ไม่เรียบเสมอกันเหมือนกันพื้นที่เทปูน
ทำให้เมื่อจะต้องปูไม้เทียมหากไม่เทปูนเพื่อปรับระดับพื้นให้เสมอกัน
ก็จะต้องทำตงไม้หรือตงเหล็กเพื่อเป็นฐานรองรับการปูไม้เทียมให้เป็นแนวเดียวกัน
นอกจากนั้นการปูไม้เทียมบนตรงที่ได้มาตรฐานทั้งเรื่องวัสดุและขนาดจะทำให้พื้นไม้เทียมราคามีความทนทานแข็งแรงมากขึ้นด้วย
ขั้นตอนการทำตงเหล็กหรือตงไม้นั้น
ก็คือ
การทำโครงเป็นฐานไว้ทั้งด้านยาวและกว้างตลอดแนวพื้นที่ที่ต้องการปูไม้เทียมเพื่อความแข็งแรงจุดตัดไม่ควรห่างกันเกินกว่า
30 เซนติเมตร เพราะพื้นไม้เทียมอาจหักและเสียหายได้ หลังจากทำตงเสร็จ
จึงเป็นขั้นตอนของการปูไม้เทียม
ซึ่งก็มีวิธีคล้ายกับการปูไม้เทียมบนพื้นปูนที่เรียบ
สำหรับรายละเอียดในเรื่องของการติดตั้งไม้เทียมไม่ว่าจะเป็นพื้นไม้หรือผนัง
หรือบริเวณอื่น ๆ จะมีรายละเอียดขั้นตอนในการติดตั้งที่แตกต่างกันออกไป
อย่างไรก็จะต้องยึดตามคู่มือในการติดตั้งไม้เทียมจากร้านวัสดุที่เราซื้อไม้เทียมwpcมาด้วยหรือถ้าไม่มีความเชี่ยวชาญก็ควรใช้บริการจากช่างติดตั้งที่มีฝีมือและประสบการณ์
คุณสมบัติที่ไม้เทียมทุกแผ่นควรมี
ในปัจจุบัน วัสดุตกแต่งบ้านชนิดหนึ่งที่หลายคนนิยมกัน นั่นก็คือ ไม้เทียม
ไม้เทียมที่ถูกผลิตออกมาวางขายบนท้องตลาดในขณะนี้
มีหลายรูปแบบ หลายยี่ห้อ หลายชนิดด้วยกัน
ตั้งแต่ไม้เทียมที่ใช้องค์ประกอบพื้นฐานเป็นไม้เนื้ออ่อน
แล้วนำวัสดุจำพวกซิลิโคนยัดเข้าไปในเนื้อไม้ทำให้ไม้มีความทนทานต่อสภาพอากาศ
อุณหภูมิ รวมถึงมด แมลง ได้มากกว่าปกติ
ไปจนถึงไม้เทียมที่ทำจากวัสดุพวกปูนปลาสเตอร์ผสมกับเซลลูโลส
ซึ่งไม้เทียมแต่ละแบบต่างก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป แต่อย่างไรก็ตาม
ไม่ว่าจะเป็นไม้เทียมแบบใด ย่อมต้องมีคุณสมบัติบางอย่างร่วมกัน
เพราะฉะนั้นในบทความนี้ เราจะมาดูกันว่า ไม้เทียมที่ดีต้องมีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง
คุณสมบัติที่ดีของไม้เทียมประการแรก
คือ ต้องมีความทนทานต่ออุณหภูมิ ความชื้น น้ำและสารเคมีต่าง ๆ ได้ดี
ไม้เทียมที่มีคุณภาพจะต้องทนทานต่อสิ่งเหล่านี้ทั้งในแง่ของการกัดกร่อน
การซึมผ่านและการส่งผลต่อพื้นผิวหากต้องเผชิญกับอุณหภูมิ น้ำ
สารเคมีจะต้องไม่เกิดการรั่วซึมบริเวณเนื้อไม้หรือเกิดการลั่นเนื่องจากการหดตัว
ขยายตัวโดยเด็ดขาด หากไม้เทียมจากบริษัทใด
พอเอามาติดตั้งแล้วเกิดอาการลั่นเมื่ออุณหภูมิเปลี่ยนหรือเกิดการเปียกชุ่มเข้ามาข้างใน
จากการโดนฝนหรือพื้นผิวของไม้เกิดการสึกกร่อนก่อนเวลาอันควร ไม้เทียมที่ติดตั้งอยู่นั้นย่อมไม่ถือว่าเป็นไม้เทียมที่ดี
คุณสมบัติประการต่อมาของไม้เทียมที่ดี
คือ ต้องมีความแข็งแรงสูง แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถหักงอได้เล็กน้อย
ซึ่งคุณสมบัติในส่วนของการหักงอจะมีความแตกต่างกัน
แล้วแต่ว่าไม้เทียมนั้นทำจากวัสดุใด
ถ้าเป็นปูนปลาสเตอร์ผสมกับเส้นใยเซลลูโลส
การหักงอก็จะสามารถทำได้มากพอสมควร
แต่ถ้าทำจากไม้สนที่อัดซิลิโคนเข้าไปในเนื้อไม้อาจจะแทบหักงอไม่ได้เลย
คุณสมบัตินี้ถือเป็นสิ่งสำคัญเพราะจะทำให้ไม้เทียมมีความทนทานเวลาติดตั้งและสามารถคงรูปได้นาน
หากท่านใดเจอไม้เทียมแบบที่หักง่าย งอง่าย โก่งง่ายก็มั่นใจได้เลยว่า
ไม้เทียมจากบริษัทนั้นผลิตอย่างไม่ได้คุณภาพให้หลีกเลี่ยงเสีย
ทั้ง
2 ข้อนี้ ก็คือ คุณสมบัติที่ควรมีในไม้เทียมทุกแผ่น
ไม่ว่าจะเป็นไม้เทียมจากบริษัทใดก็ตาม ขอให้ผู้ที่กำลังจะเลือกซื้อไม้เทียม
โปรดพิจารณาด้วยคุณสมบัติ 2 ข้อนี้
เพื่อให้สามารถเลือกซื้อไม้เทียมที่มีคุณภาพได้
ไม่มีความคิดเห็น